ธีรยุทธ บุญมี : กาฝาก 14 ตุลา และ "ปัญญาชนบริกร"
"กาฝาก 14 ตุลา"
หลัง 14 ตุลา (ในทีนี้ผมรวมถึงขบวนการต่อเนื่องจนถึงช่วงต้นทศวรรษ 2520) ธีรยุทธ ได้สร้างสรรค์งานอะไรที่ทำให้สมควรได้รับความสนใจ หรือนับถือ ในระดับที่ทำให้มีปรากฏการณ์ "แถลงข่าว" ให้ หนังสือพิมพ์พาดหัวแบบนี้บ้าง? คำตอบคือ ไม่มีเลย เหตุผลสำคัญประการเดียว ที่ธีรยุทธ ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะความประทับใจ หรือนับถือในผลงานวิชาการ หรือผลงานด้านสังคมอื่นๆ งาน "วิชาการ" ของเขา (ซึ่งมีน้อยมาก) ไม่เคยได้รับการยอมรับในวงวิชาการจริงๆ และเขาไม่เคยมีตำแหน่งหน้าที่การงานอะไร ที่ทำอะไรออกมาจริงๆจังๆ สิ่งที่เขาทำจริงๆ ในรอบ 20 ปีนี้ ก็มีเพียงอย่างที่กำลังทำอยู่นี้แหละ คือ ออกมา "แถลงข่าว" เป็นระยะๆ - - - แต่เหตุผลประการเดียวที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ได้ ก็คือ เขามีชื่อเสียงจาก 14 ตุลา
นั่นคือ การที่ธีรยุทธ สามารถทำเช่นนี้ได้ เพราะเขา อาศัย "ต้นไม้ 14 ตุลา" ซึ่งก็คือ เลือดเนื้อความเสียสละของผู้ปฏิบัติงาน และมวลชน จำนวนมหาศาล เป็น "แหล่งทำมาหากิน" .. เหมือนกาฝาก หรือในสำนวนไทยอีกอย่าง คือ "กินบุญเก่า" แต่เป็นบุญทีคนอื่นทำไว้เสียเยอะ (บุญที่เขาทำเอง หมดไปนานแล้ว เพราะไม่เคยต่อใหม่)
"ปัญญาชนบริกร"
นอกจาก "ความฉลาด" ในการเป็น "กาฝาก" ของ "ต้นไม้ 14 ตุลา" โดยไม่ยอมไป "ทำมาหากิน" ด้วยตัวเองจริงๆ แล้ว เหตุผลรองอีกประการหนึ่ง คือ "ความฉลาด" ในแง่เป็นคนคอย "บริการ" ให้กับ หนังสือพิมพ์ และสื่อมวลชนไทย ซึ่งไม่เคยมีความฉลาดด้วยตัวเองพอจะเขียนหัวข้อข่าวด้วยตัวเอง และขณะเดียวกัน ก็ โง่พอที่จะหลงเชื่อว่า "คำเท่ห์ๆ" เป็นอะไรที่น่าสนใจลึกซึ้ง... .. ลักษณะที่ธีรยุทธ "คิดคำ" ที่นำไปพาดหัวได้ กลายเป็นอะไรบางอย่างที่มากเสียจนกลายเป็น parody ตัวเองไปแล้ว ในสมัยแรกๆ การ "คิดคำ" เหล่านี้ ยังมีลักษณะเพียงการเสริมการ "วิเคราะห์" ของเขาบ้าง ทุกวันนี้ นสพ.ไปฟัง และรายงาน "แถลงข่าว" เพื่อหา "พาดหัว" ล้วนๆ เพราะสิ่งที่ธีรยุทธ "วิเคราะห์" ออกมา มีคนอื่นพูดไปแล้วทั้งนั้น หลายรายพูดได้น่าสนใจกว่าเขา เพียงแต่ไม่มีใคร "ฉลาด" พอ หรือมีเวลาว่างพอ ในการคิดหาวิธีหลอก นสพ.แบบเขาได้ เขาได้พัฒนาเรื่องนี้จนเป็น art-form เป็น "ศิลปะ" อย่างหนึ่ง ความจริง หากในยามเกษียณอายุ (หวังว่าจะมีนะ กลัวแต่จะไม่ยอมไปไหน เหมือนประเวศ ที่เขากำลัง "เทรน" ตัวเอง ไว้แทนที่นั่นแหละ) แล้วใครต่อใคร โดยเฉพาะ นสพ. เริ่มฉลาดขึ้น และเลิกทำแบบนี้แล้ว เขาอาจจะไปเขียน "คู่มือ" การ "ปั่นข่าว" หากินต่อได้อีกสักระยะหนึ่งด้วย
เผด็จการฟาสซิสต์ ไม่พอ
คำ "วิจารณ์" คมช.-รัฐบาลทหารของธีรยุทธ ครั้งนี้ ก็เช่นเดียวกับครั้งก่อน ("ขิงแก่", "ขมิ้นอ่อน", "โกกิ") คือ ไม่ใช่การวิจารณ์ว่ารัฐบาลนี้เป็นเผด็จการ ใช้อำนาจปืน มาจัดการผู้อื่น ทำให้กระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย ที่ควรเป็นกติกา หรือ กลไกที่เป็นกลางกับทุกฝ่าย ให้เป็นเพียงเครื่องมือเล่นงานศัตรูทางการเมือง .. "การตรวจสอบ" ต่างๆ ที่ดำเนินอยู่นี้ แม้แต่ชาวบ้าน ก็รู้ว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมหลอกๆ (show trial) คือ มีไว้เล่นงานศัตรูเท่านั้น (สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำ ถ้าเป็นสมัยก่อน เช่น การรับตำแหน่ง 4-5 ตำแหน่งพร้อมๆกันของผู้นำทหาร, การใช้ที่ดินป่าสงวนของนายกฯ แม้แต่เรื่อง การจดทะเบียนสมรสซ้อน, การตั้งลูกตัวเองเป็นเลขาฯ พาลูกไปเที่ยวอย่างน่าสงสัยว่าจะใช้เงินหลวง ฯลฯ.. ถ้าเป็นสมัยรัฐบาลเลือกตั้ง ป่านนี้ถูกเล่นงานเปิดเปิงไปแล้ว ...) แต่ธีรยุทธ ยังเห็นว่าไม่พอ คือยังเห็นว่า ที่คณะทหารและรัฐบาลนี้ กำลังกระทำชำเรากฎหมาย กระทำชำเรากระบวนการยุติธรรมนั้น ไม่พอ .. ยังไม่ฟาสซิสต์พอ คำวิจารณ์ของเขา ทั้งครั้งก่อนและครั้งนี้ สรุปแล้ว คือ "เอาแม่ งเลย" "เอาแม่ งเลย" ทักษิณน่ะ ไม่ต้องคำนึงถึงเปลือกนอก หรือกรอบอะไรของกฎหมายเลย (ซึ่งจริงๆก็ไม่คำนึงอยู่แล้ว แต่เขายังเห็นว่า ไม่พอ) .. "เอาเลย" ไม่ต้องห่วงเรื่องความชอบธรรมพวกนี้ ใช้อำนาจที่มีอยู่ เล่นงาน "แม่ง" เลย...
<< Home